คีโตคืออะไร? คีโต (Keto) หรือ คีโตเจนิก ไดเอท (Ketogenic Diet) เป็นแนวทางการทานอาหารที่เน้นการทานไขมันชนิดดีเพิ่มขึ้นเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดตที่น้อยลงและโปรตีนในปริมาณปานกลาง เพื่อให้ร่างกายเกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญพลังงานจากคาร์โบไฮเดตไปเป็นไขมันแทน
การทานอาหารคีโตทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินลดต่ำลง จนร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายได้ ส่งผลดีต่อผู้ป่วยบางโรคเช่นเบาหวาน และผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น
ประโยชน์ของการทานอาหารคีโต
- ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดระดับอินซูลิน
- ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
- ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์
ข้อควรระวังในการทานอาหารคีโต
- ไม่ควรทานอาหารคีโตในระยะยาว
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทานอาหารคีโต โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคไต โรคตับ โรคหัวใจ
- อาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ท้องผูก
ตัวอย่างอาหารคีโต
- อาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ เนย น้ำมันมะกอก อะโวคาโด
- อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ถั่ว
- อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ
ตัวอย่างอาหารที่ไม่เหมาะกับคีโต
- อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น แป้ง ข้าว น้ำตาล น้ำผลไม้ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
- อาหารที่มีน้ำตาลแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ ไวน์ น้ำอัดลม
- อาหารที่มีไขมันทรานส์
ประเภทของการกินคีโต
การกินคีโตมี 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- คีโตเจนิก ไดเอทแบบมาตรฐาน (Standard Ketogenic Diet) เป็นรูปแบบการกินคีโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้เหลือน้อยกว่า 5% ของพลังงานทั้งหมดต่อวัน
- คีโตเจนิก ไดเอทแบบวงจร (Cyclic Ketogenic Diet) เป็นรูปแบบการกินคีโตที่จะมีการเพิ่มปริมาณคาร์โบไฮเดรตในช่วงสั้นๆ ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญคาร์โบไฮเดรตบ้าง
- คีโตเจนิก ไดเอทแบบเป้าหมาย (Targeted Ketogenic Diet) เป็นรูปแบบการกินคีโตที่จะมีการเพิ่มปริมาณคาร์โบไฮเดรตก่อนออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในการออกกำลังกาย
- คีโตเจนิก ไดเอทแบบไมโคร (Micro Ketogenic Diet) เป็นรูปแบบการกินคีโตที่จำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้เหลือน้อยกว่า 20 กรัมต่อวัน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
ผู้ที่ต้องการเริ่มทานอาหารคีโตควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนเริ่ม เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ที่มา: https://www.medparkhospital.com/lifestyles/ketogenic-diet